สัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 14 “เดิน ขี่ ขับ ไป-กลับ ปลอดภัย” ( 7-8 ส.ค.2562 )

สัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 14
“เดิน ขี่ ขับ ไป-กลับ ปลอดภัย”


ทีมงานศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก รพ.รามาธิบดี เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 14 “เดิน ขี่ ขับ ไป-กลับ ปลอดภัย” 

14th Thailand Road Safety Seminar “Play your part and share the road”  

ระหว่างวันที่ 7-8 สิงหาคม พ.ศ. 2562  

ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร

โดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา

 

รองนายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลตั้งเป้าการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2563

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 14 ภายใต้หัวข้อ “เดิน ขี่ ขับ ไปกลับ ปลอดภัย” ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก รพ.รามาธิบดี    โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก ว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา

มีคนไทยกว่า 20,000 คน ต้องเสียชีวิต และมีผู้พิการรายใหม่กว่า 9,000 คน ที่ได้รับความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมกว่า 200,000 ล้านบาทต่อปี รัฐบาลจึงได้กำหนดให้มีการสร้างความปลอดภัยบนถนนเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ ซึ่งมีเป้าในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2563 อีกทั้งยังนำเรื่องความปลอดภัยทางถนนมากำหนดเป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2573

ที่ผ่านมารัฐบาลได้กำหนดให้ใช้มาตรการชุมชน สังคม และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง 

เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมปัจจัยเสี่ยงควบคุู่กับการสร้างจิตสำนึกส่งเสริมด้านวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยทางถนนในระยะยาว ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ อย่างเหมาะสม พร้อมเน้นย้ำให้มีการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่ต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเฉพาะมาตรการ 4 ห้าม 3 ต้อง ประกอบดัวย ห้ามขับเร็ว ห้ามดื่ม ห้ามง่วงขับ ห้ามโทรขับ และต้องคาดเข็มขัด ต้องสวมหมวดนิรภัย ต้องมีใบอนุญาติขับขี่ ทั้งนี้ยอมรับว่าการดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนนที่ผ่านมา ยังประสบปัญหาและอุปสรรคในการลดการสูญเสียตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงมีความจำเป็นต้องเร่งปรับปรุงพัฒนาและกำหนดแนวทาง มาตรการใหม่ในการแก้ไขปัญหาใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อสร้างประเทศไทยให้เป็นเมืองปลอดภัย Safety Thailand รองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยปีนี้เน้นให้ความสำคัญในกลุ่มคนเดินเท้า กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานและรถจักรยานยนต์ รวมถึงกลุ่มผู้ใช้รถโดยสารสาธารณะภายใต้แนวคิด “เดิน ขี่ ขับ ไปกลับ ปลอดภัย”

 

 

อย่างไรก็ตาม สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย ยังเสนอให้รัฐบาลบรรจุ “วาระเรื่องความปลอดภัยทางถนนของเด็กและเยาวชน” ไว้ในแผนงานของกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน ใน 3 ประเด็นหลัก คือจัดให้มีทางเลือกในการเดินทาง  จัดให้มีการเรียนรู้ความเสี่ยงและทักษะการขับขี่ตั้งแต่ปฐมวัย และจัดตั้งกลไกอนุกรรมการด้านความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน ในศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนส่วนกลางและทุกจังหวัด โดยมีเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยเป็นอนุกรรมการฯ หลังพบข้อมูลในปี 2560 ที่ผ่านมา มีเด็กและเยาวชนเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นจาก 5 ปีที่แล้วกว่าร้อยละ 30


นายประจวบ ผลิตผลการพิมพ์ ผอ.ฝ่ายสื่อสารสาธารณะ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก รพ.รามาธิบดี ร่วมลงนามประกาศเจตจานงเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนสาหรับกลุ่มเด็กและเยาวชน เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2562 ภายในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 14


ดูคลิป

ความเป็นมาของโครงการก่อน 15 ไม่ขี่ โดย กรวิการ์ บุญตานนท์
นักวิจัยจากศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก รพ.รามาธิบดี ในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 14 “เดิน ขี่ ขับ ไป-กลับ ปลอดภัย”


นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เข้าเยี่ยมชมบูธของศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก รพ.รามาธิบดี โดยมีนายวุฒิพงษ์ เพิ่มมณีรัตน์ จนท.วิจัยของศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยในเด็ก รพ.รามาธิบดี ให้การต้อนรับ


บรรยากาศภายในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 14


www.dekdontdrive.com
โปรดแสดงความคิดเห็น